เลิกเหล้าไปอีกนาน หนุ่มวัย 26 เมาแล้วขับชนร้านเฟอนิเจอร์เสียหายนับ 80 ล้านบาท
เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 18 ก.พ. 2562 ได้มีการแจ้งเหตุรถยนต์พุ่งชนร้านเฟอร์นิเจอร์ เลขที่ 31/6 ถนนกาญจนวณิชย์ เขตเทศบาลเมืองคอหงส์ จ.สงขลา จนเป็นเหตุให้เกิดไฟลุกไหม้ ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลเมืองคอหงส์ และเทศบาลนครหาดใหญ่จำนวน 5 คัน พร้อมทั้งหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีหาดใหญ่ พยายามเข้าไปหยุดไฟที่ลุกท่วมศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์ ชื่อ บางกอกลิฟวิ่งมอลล์
ซึ่งเมื่อไปถึงก็พบไฟที่กำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง โดยมีต้นเพลิงมาจากรถยนต์โตโยต้า โคโรลล่า
สีเทา เลขทะเบียน ขท 1452 สงขลา ที่เสียหลักพุ่งชนเข้าไปภายในร้านเฟอร์นิเจอร์จนเกิดไฟลุกท่วมเนื่องจากมีสินค้าที่เป็นเชื้อไฟอย่างดี ซึ่งสร้างความเสียหายให้โครงสร้างของอาคารพังลงมาด้วย
เจ้าหน้าที่ใช้เวลา 3 ชั่วโมงในการควบคุมสถานการณ์ แต่ก็ไม่ทันการณ์ เนื่องจากเกิดความเสียหายเกือบทั้งหมด แต่คนขับรถนั้นได้ถูกช่วยชีวิตออกมาจากกองเพลิงได้ ซึ่งต่อมาทราบชื่อคือ นายพฤหัส แซ่จิว อายุ 26 ปี ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมา โชคยังดีที่ทหารประจำด่านตรวจด้านความมั่นคงอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ จึงได้ทำการช่วยชีวิตไว้ได้ทัน และส่งตัวไปยังโรงพยาบาลหาดใหญ่
ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ร้านเฟอร์นิเจอร์นี้เป็นของ นายอัชอารีย์ วันดับดุลเลาะฮ์ อายุ 50 ปี ได้เผยกับเจ้าหน้าที่และนักข่าวว่า ความเสียหายทั้งหมดนั้นตีเป็นเงินก็ประมาณ 80 ล้านบาท เพราะเกิดความเสียหายทั้งเฟอร์นิเจอร์และโครงสร้างร้านทั้งหมด ซึ่งทางร้านเฟอร์นิเจอร์และรถยนต์คู่กรณีกลับไม่มีประกันทั้งคู่ เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหาดำเนินคดีกับ นายพฤหัส 2 ข้อหา ได้แก่ ขับรถประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย และขับรถขณะมึนเมาสุรา โดยจะเรียกตัวมาแจ้งข้อหาหลังจากที่นายพฤหัสได้รับการปล่อยตัวมาจากการนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกครั้ง
จากข่าวข้างต้นนี้ทำให้เราได้เห็นถึงโทษของการดื่มสุรา ซึ่งผู้ก่อเหตุคือนายพฤหัส ได้ดื่มสุราจนเมาแล้วยังขับรถยนต์ในทางสาธารณะจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ ซึ่งใครหลายคนที่ได้อ่านข่าวนี้ คงต้องคิดให้รอบคอบและใช้สติให้มาก หากว่าเมาก็ควรจะเรียกแท็กซี่หรือเรียกเพื่อนหรือคนในครอบครัวมารับกลับบ้าน ไม่ควรที่จะขับรถเอง เพราะว่าอาจจะลงเอยเหมือนนายพฤหัสคนนี้ก็เป็นได้ ที่ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่รอดชีวิตมาได้จากกองเพลิง แต่ต้องตื่นมารู้ข่าวว่าตนเองสร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินผู้อื่นไปมากถึง 80 ล้านบาท เพียงเพราะเมาแล้วขับ