ความแตกต่างระหว่างผู้ป่วยโรคซึมเศร้าและคนทั่วไป

โรคซึมเศร้านั้นถือได้ว่าส่งผลกระทบต่อชีวิตเป็นอย่างมาก โดยทั่วโลกของเรานั้นมีผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้ามากถึง 300 ล้านคนและมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยโรคซึมเศร้านั้นเป็นปัญหาสุขภาพของทางอารมณ์ เช่น การคิดมาก การขาดแรงจูงใจในการทำงานหรือการใช้ชีวิต และยังส่งผลถึงสุขภาพร่างกายได้แก่ การปวดศีรษะ และปัญหาในการใช้ชีวิตเพราะร่างกายไม่แข็งแรงพอ เป็นต้น ซึ่งบทความนี้เราจะมาบอกเกี่ยวกับอาการของผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้าว่าพวกเขานั้นมีอาการเป็นอย่างไร เพื่อที่จะได้นำมาเปรียบเทียบกับคนปกติทั่วไป ว่ามีความต่างกันอย่างไรกันค่ะ

พวกเขามักจะชอบใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอน

คนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้านั้นมักจะชอบอยู่เฉยๆหรือนอนหลับเสียมากกว่า เพราะพวกเขาไม่อยากที่จะคิดมากหรือฟุ้งซ่าน หรือบางครั้งพวกเขาไม่รู้จะทำอะไร พวกเขาเลยชอบนอนเสียมากกว่า

ชอบหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่สนุกสนาน

คนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามักจะมองข้ามกิจกรรมที่สนุกสนาน เช่น การไปสังสรรค์ หรือที่ๆมีคนเยอะ พวกเขาชอบที่จะเก็บตัวอยู่เงียบๆคนเดียวเสียมากกว่า

มีอาการเครียดที่สูง

บางครั้งคนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าก็เกิดภาวะความเครียดสะสม จนทำให้เกิดความเครียดขึ้นมาฉับพลันโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่รักษาได้ยากเป็นอย่างมากหากเกิดขึ้นกับผู้ป่วย

พวกเขาชอบทำอะไรครึ่งๆกลางๆ

อาการป่วยซึมเศร้านี้มักจะทำให้การทำงานหรือการทำอะไรต่างๆของพวกเขานั้นอยู่ในครึ่งๆกลางๆ ไม่มีอะไรที่ชัดเจนและแน่นอน หากเขาทำอะไรบางครั้งพวกเขาอาจจะทิ้งมันไปกลางคัน ซึ่งบางครั้งก็ส่งผลกระทบต่อการทำงานด้วยเช่นกัน โดยในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นได้มีการสำรวจว่า พนักงานที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้านั้นมักจะขาดงานประมาณ 4 วันในทุกๆ 3 เดือน และส่งผลเสียต่อหน้าที่การงานและบริษัท

พวกเขามักจะผลักผู้อื่นให้ออกไปจากชีวิตของพวกเขา

คนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้านั้นมักจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ยั่งยืนกับทุกคน พวกเขามักจะชอบปลีกตัวออกห่างจากเพื่อนและครอบครัว การที่จะช่วยคนเหล่านี้ได้เราต้องทำให้เขารู้ว่าในชีวิตของเขานั้นยังมีคนอื่นที่ยังเป็นห่วงและพร้อมจะดูแลเขาอยู่

และนี่ก็คืออาการของผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ซึ่งจะมีอาการที่ต่างออกไปจากคนปกติที่เราสามารถเห็นได้ชัด ซึ่งหากคนในครอบครัวหรือคนที่คุณรักหรือแม้แต่ตัวคุณเอง รู้ตัวว่าตัวเองมีภาวะสุ่มเสี่ยงที่จะเป็นโรคซึมเศร้า ทางที่ดีควรปรึกษาจิตแพทย์หรือพยายามคิดในด้านบวกเข้าไว้ และครอบครัวเพื่อนสนิทหรือคนที่เรารักนั้นคือสิ่งที่สำคัญที่ไม่ควรที่จะอยู่ห่างพวกเขา