นี่แหละวิถีคนโสดกับ 7 สิ่งที่คนโสดต้องเคยทำกันมาแล้วทั้งนั้น
โสดแล้วยังไง…ใครแคร์ ถึงมันจะเหงาๆไปบ้างแต่จริงๆมันก็ดีในแบบของมันใช่มั้ยล่ะคะ? ที่ไม่ต้องมาคอยตามใจใครหรือต้องมาทนกับความงี่เง่าของใคร เพราะแค่ของเราเราก็ทนไม่ได้แล้ว (5555) วันนี้เราเลยจะมานำเสนอบทความเกี่ยวกับวิถีของคนโสดคือ “7 สิ่งที่คนโสดต้องเคยทำกันมาแล้วทั้งนั้น” ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้นเราไปอ่านพร้อมๆกันเลยค่ะ
1.กินข้าวคนเดียว
เรียกว่าธรรมดามากๆสำหรับข้อนี้ สำหรับการไปกินข้าวคนเดียว ซึ่งถึงแม้จะเหงาๆบ้างก็เถอะ เพราะไม่มีใครมานั่งกับเราเลย แต่มันก็มีข้อดีของมันนะเช่น กินเสร็จก็ลุกไปจ่ายตังได้เลยไม่ต้องมานั่งรอให้อีกคนกินหมด หรือไม่ต้องมากลัวว่าใครจะมาแย่งเรากิน
2.กลับบ้านบ่อยเหลือเกิน
ช่วงเวลาโสดเนี่ยจะเป็นช่วงที่เรารู้สึกรักและคิดถึงพ่อแม่เป็นพิเศษ สำหรับคนที่อยู่ต่างจังหวัดมักจะชอบแอบกลับบ้านบ่อยๆ ไปหาพ่อและแม่จนบางครั้งพ่อกับแม่ก็ถึงกับบ่นว่าจะกลับมาทำไมบ่อยเหลือเกิน (55555) แต่ก็ถือว่าเป็นการใช้เวลาอยู่กับครอบครัวได้คุ้มค่าที่สุดแล้วแหละเนอะ
3.อินกับอะไรง่ายเกิ๊น
ไม่ว่าเพลงเศร้าหรือเพลงอกหักเนี่ยแค่ได้ยินก็แทบจะน้ำตาคลอเบ้า ยิ่งถ้าเป็นท่อนฮุคที่บาดลึกกินใจเนี่ย รับรองได้เลยว่ามีเจ็บเจียนตายแน่นอนค่ะ
4.สับสนในตัวเอง
คนโสดหลายคนมักจะมีอาการสับสนในตัวเอง ตอนที่โสดยาวๆก็อยากจะมีใครสักคนเข้ามาเติมเต็มให้กับชีวิตรัก แต่พอได้มีแล้วกลับมีความรู้สึกที่แบบว่าอยากอยู่เป็นโสดมากกว่า ซึ่งบางทีก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ เรียกว่าเป็นคนชอบสับสนในชีวิตตัวเองประมาณนั้น
5.โลกส่วนตัวสูงขึ้น
ชอบอยู่คนเดียว และมีความสุขกับการที่ต้องอยู่ในห้องทั้งวันแล้วก็หาหนังหรือซีรีส์ดู พร้อมกับขนมคู่ใจ แค่นี้ก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว เพราะบางทีก็เบื่อความวุ่นวายเลยพยายามสร้างโลกส่วนตัวที่ตัวเองพอใจเสียมากกว่า
6.กลัวความรัก
เพราะประสบการณ์ความรักที่ผ่านมามักจะจบลงไม่สวย จึงทำให้คนโสดหลายๆคนมักจะกลัวความรัก พวกเขาจะพยายามสร้างกำแพงให้ตัวเองทีละนิด แต่ก็รอใครสักคนที่จะมาพังกำแพงนั้นลง
7.ติดเทคโนโลยี
ร้อยละ 90% ของคนโสดมักจะเป็นพวกติดอุปกรณ์เทคโนโลยีเช่น หูฟัง, เกมส์ อะไรพวกนี้ ทำให้ต้องพกติดตัวตลอดเวลา เพราะพวกนี้ทำให้พวกเขารู้สึกหายเหงาแล้วก็ไม่ต้องมาคิดฟุ้งซ่านเรื่องความรักนั่นเอง
และนี่ก็คือ 7 สิ่งที่คนโสดมักจะต้องเคยทำกันมาแล้วทั้งนั้น แล้วคุณล่ะเคยทำข้อไหนบางเอ่ย?