บางคนรวยแล้วชอบลืมตัวไม่รู้พื้นฐานตัวเองว่าเป็นแบบไหน
คนบางคนพอมีเงินทอง ประสบความสำเร็จ หลายคนก็มักที่จะลืมตัว
ทะนงตนว่าตนเองร่ำรวย มีฐานะ ใช้ชีวิตอย่างประมาท
อย่าลืมนะว่าชีวิตของคนเรามีขึ้นมีลงอยู่เสมอ
ต่อให้วันนี้คุณจะรวยมากขึ้นกี่เท่าก็ตาม แต่จงอย่าลืมจุดที่คุณ
เคยยืนมาก่อนเป็นอันขาด
ให้นึกเอาไว้เสมอว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้คุณต้องเจออะไรมาบ้าง
และรู้จักระวังการใช้เงินให้มากๆ ถ้าไม่อยากกลับไปสู่จุดนั้น
อีกทั้งคนบางคนได้ดีแล้วลืมบุญคุณคนที่เคยช่วยเหลือเขา
โดยไม่สนใจว่าที่ตนเองมีทุกวันนี้ได้เพราะใครบ้าง
อย่าทำตัวเป็นวัวลืมตีน ไม่รู้สำนึกบุญคุณคนอื่น
เพราะหากวันไหนคุณเผลอพลาดตกลงมาสู่ดิน
คุณจะเจ็บกว่าที่คุณคิด
ดังเรื่องที่เราจะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวของอาแปะขายก๋วยเตี๋ยวท่านหนึ่ง
เมื่อก่อนเขาเรียกได้ว่าเป็นเศรษฐีมีเงินมีทองมากมายเมื่อ 30 ปีก่อน
เขามีที่ดินมากมายกว่า 500 ไร่ และทรัพย์สินนับไม่ถ้วน
เขาพกเงินในกระเป๋าครั้งละเป็นแสนๆ อาหารทุกมื้อคือต้องหรูและอร่อย
ลูกๆของเขาก็ส่งไปเรียนเมืองนอกกันหมด เพราะคิดว่าที่นี่ไม่มีคุณภาพพอ
เขาและภรรยาชอบเอาเงินไปลงทุนเล่นหุ้น พวกเขามีเงินเก็บเป็นร้อยๆล้าน
จนวันหนึ่งมีญาติของเขามาขอยืมเงินหนึ่งแสนบาท
เขาด่าญาติของเขาไม่มีชิ้นดีด้วยความสมเพศเวทนา ก่อนจะโยนเงินหนึ่งแสน
ที่เปรียบเสมือนกับเศษเงินของเขาให้ญาติคนนั้นไปอย่างไม่ใยดี พร้อมกับบอกว่า
“ไม่ต้องมาหากูอีกนะ เงินที่กูให้นั้นกูให้ทาน” ชายคนนั้นรับเงินมาพร้อมกับน้ำตา
จนมาถึงยุคเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง ไหนจะน้ำท่วมครั้งใหญ่
ชีวิตของเขาก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ
ด้วยการตัดสินใจทำธุรกิจที่ผิดพลาดของเขา ทำให้รถยนต์ 19 คัน บ้านอีก 5 หลัง
ที่ดินทั้งหมดที่เคยมี ต้องถูกยึดเพราะเป็นหนี้จนไม่มีปัญญาใช้
ที่เล่นหุ้นมาก็เสียหายจนหมดตัว ลูกๆที่เรียนจบนอกมาทำธุรกิจก็เจ๊งกันหมด
ภายใน 2 ปี จากที่เคยมีสมบัติมากมายที่คิดว่าใช้ไปอีกหลายชาติก็ไม่หมด
เขากลับไม่เหลืออะไรอีกเลย ทุกวันนี้ต้องมายืนขายก๋วยเตี๋ยวประทังชีวิตไปวันๆ
เมียก็ช็อคจนไม่คิดจะทำอะไร ส่วนลูกๆก็หนีหายไปกันหมด ไม่เจอหน้ามาหลายปี
ปัจจุบันเขาอายุ 76 ปี แต่ต้องมาทำงานขายก๋วยเตี๋ยว
เช่าห้องแถว หากินไปวันๆ ต้องยกหม้อก๋วยเตี๋ยว เตรียมของ ล้างจาน ทำทุกอย่าง
เงินค่าเช่าก็ได้มาจากคนที่เขาเคยด่า ก็คือญาติของเขาที่เขาด่าเหมือนหมูเหมือนหมาในวันนั้น
ลูกเขายื่นเงินมาให้แสนห้า แล้วบอกกับอาแปะว่า
“พ่อผมบากหน้าไปยืมเงินลุง เพราะตอนนั้นผมป่วยต้องผ่าตัดสมอง
ต่อให้ลุงจะกระทำกับพ่อผมเหมือนหมูเหมือนหมา แต่เขาก็ยอม ขอแค่เพียง
ได้เงินก้อนนั้นมาผ่าตัดผม”
“แสนนี้ผมคืน ส่วนห้าหมื่นคือดอกเบี้ย เราไม่มีหนี้บุญคุณต่อกันอีกแล้ว
และถ้าคุณลุงลำบากจริงๆก็มายืมเงินผมได้ ผมจะให้กู้ และผมจะไม่ทำเหมือนลุง
เป็นเหมือนหมูเหมือนหมา เหมือนที่ลุงเคยทำกับพ่อผมแน่นอน”
จะเรียกว่ากรรมสนองของอาแปะก็ได้ ที่เขาได้ใช้ชีวิตสบายในช่วงหนุ่มๆ แต่พอตอนแก่
เขากลับต้องมาลำบาก เป็นคนที่ไม่เหลืออะไรเลยในชีวิต เพราะฉะนั้นฝากเอาไว้ให้คิดกัน
ก่อนที่จะสายเกินแก้นะครับ